เหตุการณ์ประท้วงของแรงงานที่เมืองเยนเมื่อเดือนตุลาคมปี 1989 ถือเป็นหนึ่งในโมเมนต์สำคัญที่จุดประกายการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินและการยุติระบอบคอมมิวนิสต์ในเยอรมนีตะวันออก เหตุการณ์นี้เกิดจากความตึงเครียดทางสังคมและเศรษฐกิจสะสมมานาน ซึ่งถูกปลุกขึ้นมาด้วยนโยบาย “Perestroika” และ “Glasnost” ของ Mikhail Gorbachev
เยอรมันตะวันออกในช่วงทศวรรษที่ 1980 กำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง การขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นเรื่องปกติ โรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากกำลังล้าหลังและขาดการลงทุนใหม่ คนหนุ่มสาวจำนวนมากเริ่มรู้สึก hopeless ต่ออนาคตในสังคมที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวด
ในเดือนตุลาคมปี 1989 ชาวเยอรมันตะวันออกกลุ่มหนึ่งได้ชุมนุมประท้วงหน้าโรงงาน shipbuilding ในเมืองเยนเพื่อเรียกร้องสิทธิแรงงานที่ดีขึ้น และการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชนที่เพิ่มสูงขึ้น การประท้วงได้ขยายวงกว้างไปทั่วทั้งเยอรมนีตะวันออก
การประท้วงของแรงงานในเยนเป็นตัวเร่งให้เกิดการปฏิวัติเยอรมันตะวันออกอย่างรวดเร็ว การประท้วงครั้งนี้ทำให้รัฐบาลคอมมิวนิสต์ต้องยอมรับข้อเรียกร้องของประชาชนและเริ่มดำเนินนโยบายปฏิรูป
เหตุการณ์ในเยนได้จุดประกายให้เกิดการชุมนุมประท้วงอย่างกว้างขวางทั่วทั้งเยอรมันตะวันออก การรวมตัวของประชาชนจำนวนมากบังคับให้รัฐบาลคอมมิวนิสต์ต้องยอมรับข้อเรียกร้องของประชาชน
ความตึงเครียดระหว่างประชาชนและรัฐบาลได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การชุมนุมประท้วงกลายเป็นเรื่องปกติ และรัฐบาลเริ่มสูญเสียอำนาจควบคุม
ในที่สุด รัฐบาลคอมมิวนิสต์เยอรมันตะวันออกก็ถูกบังคับให้ลาออก และกำแพงเบอร์ลินก็ถูกรื้อถอนลงในเดือนพฤศจิกายนปี 1989
การประท้วงของแรงงานในเมืองเยนถือเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงพลังของการต่อต้านและความปรารถนาในการเปลี่ยนแปลง
เหตุการณ์นี้ได้นำไปสู่การล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์ในเยอรมนีตะวันออก และการรวมประเทศเยอรมันอีกครั้ง
การประท้วงของแรงงานในเมืองเยนเป็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ต่อเสรีภาพและความยุติธรรม